
อีกจังหวัดสวยทางภาคใต้ของไทยที่คนไทยส่วนใหญ่มักรู้จักกันเป็นอย่างดี จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ มีทะเลที่สวยงาม ผู้คนใช้ชีวิตอย่างสโลว์ไลฟ์ เรียบง่าย และยังมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันให้เราเห็น จังหวัดนี้จึงเป็นอีกจังหวัดที่น่าอยู่มาก วันนี้เราเลยอยากพาเพื่อนๆไปรู้จักกับจังหวัดสตูล ให้มากขึ้น กับ 5 ที่เที่ยวสตูล ลองเปิดใจรับรองถูกใจแน่นอน แต่ละที่จะน่าสนใจขนาดไหนเราไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ
1.เกาะหินงาม
เกาะหินงาม นับว่าเป็นอีกเกาะบนที่สวยงามของ จังหวัดสตูล เป็นเกาะขนาดเล็กตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะอาดัง และยังเป็นเกาะขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยก้อนกรวดสีดำมันวาว ลวดลายสวยงามไม่ซ้ำกัน กลางเกาะเป็นป่าไม้สีเขียวอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวอยากแวะมาเที่ยวสักครั้งเมื่อมาเยือนทะเลในแถบนี้

บนเกาะหินงามเต็มไปด้วยก้อนหินสีดำมันวาว กลมเกลี้ยง ต่างขนาดกันไป

น้ำทะเลสีฟ้าคอยซัดหินรอบเกาะยิ่งทำให้ความมันวาวของหินเด่นขึ้น

มีเรื่องเล่าว่าหินทุกก้อนมีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา ห้ามนำ หรือเคลื่อนย้ายออกจากอุทยาน
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เกาะหินงาม ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/BLQHUL2BKaX9QHQM6
เว็บไซต์ : –
เปิดให้เข้าชม : ท่าเรือเกาะพยาม เที่ยวเรือไปเกาะพยาม 07.30-17.00 น.
รีวิว : 4.5
(อ้างอิงจากรีวิว 634 รายการบน google: https://www.google.com/travel/hotels/entit)
2.เกาะหินซ้อน สตูล
เกาะหินซ้อน ตั้งอยู่ห่างจากเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 15 กิโลเมตร มีความโดดเด่นตรงที่ลักษณะของหินสี่เหลี่ยมสองก้อน ที่ตั้งซ้อนกันกลางทะเล และยังเป็นเกาะที่ไม่มีชายหาดรอบเกาะ เกาะหินซ้อนดูแล้วเหมือนกับศิลปะกลางทะเลไทย ความน่าแปลกอีกอย่างคือก้อนหินสองก้อนนี้ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่ก็มั่นคงต่อกันมาก ขนาดว่าก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งบริเวณนี้ แต่หินสองก้อนนี้ก็ไม่ยอมพลากจากกัน ถือว่าเกาะหินนซ้อนเป็นอีกแลนมาร์คหนึ่งของจังหวัสตูล ที่นักท่องเที่ยวพากันมาถ่ายรูปเช็คอินมากมาย อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกลาลับน้ำทะเลตัดขอบฟ้าสีส้มแดงในช่วงเย็นที่สวยงามอีกด้วย แลนมาร์คสุดท้ายของทริปนี้ ตั้งอยู่สุดเขตน่านน้ำอันดามันประเทศไทย
ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือ ก้อนหินทรงสี่เหลี่ยมขนาดยักษ์ซ้อนทับเหลื่อมกันกับก้อนหินก้อนที่เล็กกว่าคล้ายกำลังจะหล่นลงน้ำ โดยบริเวณรอบๆมีกองหิน เกาะสวยติดอันดับโลกมาพร้อมน้ำทะเล ที่ใสมากๆ
ายปลายทางที่นักดำน้ำอยากมาชมความสวยงามใต้ท้องทะเลอันดามัน อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกลาลับน้ำทะเลตัดขอบฟ้าสีส้มแดงในช่วงเย็นที่สวยงามอีกด้วยนมลนมาร์คสุดท้ายของทริปนี้ ตั้งอยู่สุดเขตน่านน้ำอันดามันประเทศไทย มีลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือ ก้อนหินทรงสี่เหลี่ยมขนาดยักษ์ซ้อนทับเหลื่อมกันกับก้อนหินก้อนที่เล็กกว่าคล้ายกำลังจะหล่นลงน้ำ โดยบริเวณรอบๆมีกองหินกระจัดกระจายที่เรียกว่า “กองหินเรือดำน้ำ” ซึ่งแอบซ่อนความมหัศจรรย์ไว้ใต้ทะเลที่มีทั้งปะการังอ่อน ปะการังแข็ง ดาวขนนก ดอกไม้ทะเล และฝูงปลาหลายชนิด เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักดำน้ำอยากมาชมความสวยงามใต้ท้องทะเลอันดามัน อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกลาลับน้ำทะเลตัดขอบฟ้าสีส้มแดงในช่วงเย็นที่สวยงามอีกด้วย าร์คสุดท้ายของทริปนี้ ตั้งอยู่สุดเขตน่านน้ำอันดามันประเทศไทย มีลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือ ก้อนหินทรงสี่เหลี่ยมขนาดยักษ์ซ้อนทับเหลื่อมกันกับก้อนหินก้อนที่เล็กกว่าคล้ายกำลังจะหล่นลงน้ำ โดยบริเวณรอบๆมีกองหินกระจัดกระจายที่เรียกว่า “กองหินเรือดำน้ำ” ซึ่งแอบซ่อนความมหัศจรรย์ไว้ใต้ทะเลที่มีทั้ง
ปะการังอ่อน ปะการังแข็ง ดาวขนนก ดอกไม้ทะเล และฝูงปลาหลายชนิด เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักดำน้ำอยากมาชวามสวยงามใต้ท้องทะเลอันดามัน อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกลาลับน้ำทะเลตัดขอบฟ้าสีส้มแดงในช่วงเย็นที่สวยงามอีกด้วย
เกาะหินซ้อน เป็นส่วนหนึ่งขเกาะหินซ้อน เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะดง ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 15 กิโลเมตร เกาะหินซ้อนมีความโดดเด่นตรงที่ลักษณะของหินสี่เหลี่ยมสองก้อน ที่ตั้งซ้อนกันกลางทะเล ไม่ได้มีชายหาดรอบเกาะ เกาะหินซ้อนดูแล้วเหมือนกับศิลปะกลางทะเลไทย ความน่าแปลกอีกอย่างคือก้อนหินสองก้อนนี้ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่ก็มั่นคงต่อกันมาก ขนาดว่าก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งบริเวณนี้ แต่หินสองก้อนนี้ก็ไม่ยอมพลากจากกันองหมู่เกาะดง ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 15 กิโลเมตร เกาะหินซ้อนมีความโดดเด่นตรงที่ลักษณะของหินสี่เหลี่ยมสองก้อน ที่ตั้งซ้อนกันกลางทะเล ไม่ได้มีชายหาดรอบเกาะ เกาะหินซ้อนดูแล้วเหมือนกับศิลปะกลางทะเลไทย ความน่าแปลกอีกอย่างคือก้อนหินสองก้อนนี้ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่ก็มั่นคงต่อกันมาก ขนาดว่าก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งบริเวณนี้ แต่หินสองก้อนไม่ยอมพลากจากกั

เหมาะกับการมาถ่ายรูป ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ผู้คนไม่เยอะจนเกินไป ทำให้การมาที่นี่ได้พักแบบเต็มอิ่มมากๆ

อีกหนึ่งจุดชมวิวบนเกาะหินซ้อน จุดนั่งชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น
ที่ตั้ง : หมู่เกาะดง อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/h8pPfwpfBxyFpXHn8
เว็บไซต์ : –
เปิดให้เข้าชม : สามารถสอบถามเวลาเดินเรือได้จากบริเวณท่าเรือ
รีวิว : 4.6
(อ้างอิงจากรีวิว 86 รายการบน google: https://www.google.com/travel/hotels/entit)
3.เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะจังหวัดสตูล เป็นอีกเกาะหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาด ปะการังที่ยังสมบูรณ์ และสารพัดปลาน้อยใหญ่ เหมือนกับมีตู้อควาเรียมอยู่ตรงหน้าเลย อีกทั้งยังเดินทางไปไม่ยากด้วย จากท่าเรือปากบาราใช้เวลาแค่เพียงชั่วโมงครึ่ง แล้วบนเกาะยังมีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย มีถนนคนเดินให้ช้อปปิ้งของพื้นบ้าน บรรยากาศครึกครื้นแต่ก็ไม่วุ่นวาย รับรองไม่เหงาแน่นอนค่ะ

เกาะหลีเป๊ะเป็นอีกหนึ่งเกาะที่มี น้ำใสทะเลสวย คงหนีไม่พ้นเกาะหลีเป๊ะ

นั่งชิงช้าใต้ต้นไม้ชมวิว และดื่มด่ำกับธรรมชาติริมทะเล

ขึ้นชื่อว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย ทะเลสวย ของคนรักทะเลและรักการถ่ายรูป
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะตะรุเตา อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/e3jreDjEV6zCUfkr8
เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
เว็บไซต์ : –
รีวิว : 4.5
(อ้างอิงจากรีวิว 1336 รายการบน google: https://www.google.com/travel/hotels/entit)
4. ปราสาทหินพันยอด
ปราสาทหินพันยอด อีกหนึ่งอัญมณีลับของจังหวัดสตูล ซ่อนความสวยงามไว้ด้านในทะเล หรือจะจัดว่าเป็นที่เที่ยวกลางทะเลขุมทรพย์ของประเทศไทยแห่งหนึ่งก็ว่าได้ หากต้องการเข้าไปข้างใน นักท่องเที่ยวต้องพายเรือคะยัคถอดถ้ำเข้าไป ชมบรรยากาศรอบๆ น้ำทะเลมีสีมรกต มองข้างบนปลอดโปร่งมองเห็นท้องฟ้า และยอดปราสาทหินพันยอดสีดำ ช่วงน้ำลดจะมีเนินทรายให้เราได้เดินเล่นถ่ายรูปอีกด้วย

ภาพถ่ายมุมสูงของปราสาทหินพันยอด ยอดหินสวยงามตามคำล่ำลือ

หากต้องการเข้าด้านในปราสาทหิน ต้องเดินทางเข้าโดยการพายเรือคะยัค

ด้านในปราสาทหินพันยอด จุดจอดเรือ และแวะถ่ายรูปเช็คอิน
ที่ตั้ง : ปราสาทหินพันยอด ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/atsSYDkDoPqRkGFBA
เปิดให้ชม : 08.00-17.00 น. (ช่วงเวลาที่สามารถเข้าชมได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง)
เว็บไซต์ : –
รีวิว : 4.5
(อ้างอิงจากรีวิว 156 บน google: https://www.google.com/travel/hotels/entit)
5. เกาะบุโหลน
เกาะบุโหลน หรือ หมู่เกาะบูโหลน อยู่ห่างจาก ท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล ประมาณ 22 กิโลเมตร คำว่า บูโหลน เพี้ยนมาจากภาษามลายู “บูโละ”แปลว่า “ไม้ไผ่” เนื่องจากบนเกาะอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ไผ่ จึงเรียกชื่อเกาะตามพันธุ์ไม้ เกาะบูโหลน เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำใส สามารถมองเห็นปะการังใต้น้ำ จนได้ชื่อว่าเป็นมุกใหม่แห่งอันดามัน โดยเฉพาะ เกาะบุโหลนเล หรือ บูโหลนใหญ่ มีทิวสนขึ้นริมหาดทรายขาว เป็นแนวยาวเสมือนเป็นแนวกำแพงป้องกันภัยทางด้านเหนือและใต้ สามารถกำบังลมได้ดี และมีจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกกระจายอยู่หลายจุด ยามค่ำคืนบริเวณชายหาดมีปูเสฉวน ปูลม ให้ดู และยังเป็นจุดดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงามจุดหนึ่งด้วย อ่าวเด่น ๆ ของ เกาะบูโหลนเล ได้แก่ อ่าวหน้าแกะ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ หาดทรายขาวสะอาด ยื่นเหยียดตรงออกไปในน่านน้ำ สีมรกต ริมหาดร่มรื่น เหมาะสำหรับการแค้มปิ้ง กางเต็นท์ริมหาด ยามเช้ายังสามารถชมพระอาทิตย์บริเวณหน้าหาดได้ด้วย

มุมชายทะเลสวยงาม มาพร้อมบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากๆ

เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน และ นั่งดูพระอาทิตย์ตกยามเย็น

อีกหนึ่งภาพถ่ายมุมสูง ของเกาะบุโหลน
ที่ตั้ง : เกาะบุโหลน ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/Ubc69zX1He2u8Yrp8
เปิดให้ชม : เปิดบริการทุกวัน
เว็บไซต์ : –
รีวิว : 4.4
(อ้างอิงจากรีวิว 313 รายการบน google: https://www.google.com/travel/hotels/entit)
สวยทุกที่เลยใช่ไหมคะ กับ 5 ที่เที่ยวสตูล ลองเปิดใจรับรองถูกใจแน่นอน ที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ แต่ละสถานที่ล้วนมีความน่าสนใจ มีเสน่ห์ และสวยงามแตกต่างกันไป หากเพื่อนๆอยากออกเดินทางท่องเที่ยวก็อย่าลืมรับจังหวัดสตูลไว้พิจารณากันไว้ด้วยนะคะ